วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555

หลักการสร้างงานกราฟิก

หลักการสร้างงานกราฟิก
 
ก่อนอื่นเราต้องทำการวางแนวทางของชิ้นงานก่อนว่าจะนำเสนอเรื่องอะไร  ใช้สี  ภาพ และข้อความอะไร  จะทำให้ทราบถึงแนวทางการสร้างชิ้นงานกันต่อ  ซึ่งอาจจะไม่ตายตัวเสมอไปแต่ก็พอเป็นแนวทางสรุปโดยรวมได้ดังนี้
 
1. การกำหนดพื้นหลังของภาพ
เป็นการกำหนดภาพ  หรือสีพื้นหลัง  โดยภาพหรือสีพื้นหลังที่ใช้นั้นควรมีโทนสีให้อารมณ์และสื่อความหมายได้ถูกต้องตามจุดประสงค์ของชิ้นงาน
2. การเลือกพื้นที่ภาพที่ใช้งาน
เป็นการตัด  หรือคัดลอกบางส่วนของภาพต่างๆ  ที่เราจะนำมาใช้ในชิ้นงานของเรา
3. การจัดวางภาพให้เหมาะสมการนำภาพส่วนประกอบมารวมกันเป็นชิ้นงาน  อาจมีบางภาพที่มีขนาดและมุมการจัดวางไม่ลงตัว  เราก็สามารถขยาย  หมุน  และบิดภาพให้เข้ากัน
4. การใส่ข้อความ
เป็นการใส่ข้อความที่เป็นชื่อเรื่อง  หรือคำบรรยายต่างๆ เข้าไปตกแต่งเพิ่มเติม
5. การนำภาพส่วนประกอบมาจัดซ้อนกัน
การนำภาพส่วนประกอบที่เลือกไว้มาทำการซ้อนกัน  โดยบางส่วนอาจจะอยู่ด้านบน  หรือด้านล่างตามจุดประสงค์ที่วางไว้
6. ตกแต่งทุกส่วนประกอบเข้ากันอย่างกลมกลืน
สุดท้ายจะพิจารณาภาพรวมชิ้นงานที่ได้  และปรับแต่งรายละเอียดของภาพประกอบแต่ละส่วนให้ดูกลมกลืนกัน  เพื่อให้ได้ผลงานที่สวยงาม
ที่มา : สร้างงานกราฟิก และตกแต่งภาพอย่างไร้ขีดจำกัดด้วย GIMP สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟแวร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) สำนักพิมพ์บริษัทซัคเซส มีเดีย จำกัด

คอมพิวเตอร์กราฟิกกราฟิก
Computer Grapic "กราฟิก" ( Graphic ) เป็นคำมาจากภาษากรีกว่า Graphikos หมายถึง การเขียนภาพด้วยสีและเขียนภาพขาวดำและคำว่า " Graphein " มีความหมายทั้งการเขียนด้วยตัวหนังสือและการสื่อความหมายโดยการใช้เส้น เมื่อรวมทั้งคำ Graphikos และ Graphein เข้าด้วยกันวัสดุกราฟิกจะหมายถึงวัสดุใด ๆ ซึ่งแสดงความจริง แสดงความคิดอย่างชัดเจน โดยใช้ภาพวาด ภาพเขียน และอักษรข้อความรวมกัน ภาพวาดอาจจะเป็น แผนภาพ ( Diagram )ภาพสเก็ต ( Sketch )หรือแผนสถิติ ( Graph )หรืออาจเป็นคำที่ใช้เป็นหัวเรื่องTitle ) คำอธิบายเพิ่มเติมของแผนภูมิ แผนภาพ แผนสถิติ และภาพโฆษณา อาจวาดเป็นการ์ตูนในรูปแบบหรือประเภทต่างๆ ภาพสเก็ต สัญลักษณ์และภาพถ่าย สามารถใช้เป็นวัสดุกราฟิกเพื่อสื่อความหมายในเรื่องราวที่แสดงข้อเท็จจริงต่าง ๆได้ วัสดุกราฟิกทางการศึกษา เป็นสื่อการสอนที่สื่อถึงเรื่องราวต่าง ๆ โดยใช้เส้น ภาพวาดและสัญลักษณ์ ที่ใกล้เคียงความเป็นจริง แทนคำพูดซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของแผนที่ แผนภาพ ภาพโฆษณา การ์ตูน และแผนสถิติ
ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์กราฟิก
ในปี ค.ศ. 1940 คอมพิวเตอร์จะแสดงภาพกราฟิกโดยใช้เครื่องพิมพ์ โดยรูปภาพที่ได้จะเป็นภาพที่เกิดจากการใช้ตัวอักษรมาประกอบกัน
ในปี ค.ศ. 1950 สถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาซูเซสต์ (Massachusetts Institue Technology : MIT] ได้พัฒนาคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีหลอดภาพCRT(Cathode Ray Tube) เป็นส่วนแสดงผลแทนเครื่องพิมพ์ เนื่องจากมีความต้องการที่จะให้การติดต่อระหว่างผู้ใช้กับ เครื่องคอมพิวเตอรมีความเร็วยิ่งขึ้น
ในปี ค.ศ. 1950 ระบบ SAGE (Semi - Automatic Ground Environment)ของกองทัพอากาศ สหรัฐอเมริกาสามารถแปลงสัญญาณจากเรดาร์ให้เป็นภาพบนจอคอมพิวเตอร์ได้ ระบบนี้เป็นระบบกราฟิก เครื่องแรกที่ใช้ปากกาแสง (Light Pen : เป็นอุปกรณ์สำหรับรับข้อมูลชนิดหนึ่ง)สำหรับการเลือกสัญลักษณ์ บนจอภาพได้
ในปี ค.ศ. 1950 - 1960 มีการทำวิจัยเรื่องเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบของระบบคอมพิวเตอร์กราฟิกสมัยใหม่
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์กราฟิก
1. ใช้แสดงผลงานด้วยภาพแทนการแสดงด้วยข้อความ ซึ่งช่วยให้เข้าใจได้ง่าย และน่าสนใจมากกว่า
2. ใช้แสดงแผนที่ แผนผัง และภาพของสิ่งต่างๆ ซึ่งภาพเหล่านี้ไม่สามารถแสดงในลักษณะอื่นได้
3. ใช้ในการออกแบทางด้านต่างๆ เช่น ออกแบบบ้าน รถยนต์ เครื่องจักร เครื่องแต่งกาย การแต่งหน้า
4. ได้มีการนำคอมพิวเตอร์กราฟิกมาช่วยทางการด้านเรียนการสอน โดยเฉพาะในวิชาที่ต้องใช้ภาพ
5. คอมพิวเตอร์กราฟิกถูกนำมาใช้ในการจำลองสถานการณ์เพื่อหาคำตอบว่า ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
6. คอมพิวเตอร์กราฟิกสามารถนำมาสร้างภาพนิ่ง ภาพสไลด์ ภาพยนต์ และรายการวิดีโอ
7. คอมพิวเตอร์กราฟิกที่มีผู้รู้จัก และนิยมใช้กันมากคงจะได้แก่ เกมส์คอมพิวเตอร์